ที่ตั้งศาลากู่แก้ว
ชุมชนสามัคคี อ.เมือง จ.หนองคาย เปิดให้เข้าชมทุกวัน ระหว่างเวลา
07.00-17.00 น ค่าเข้าชมคนละ 20 บาท
ศาลากู่แก้ว สร้างอยู่บนพื้นที่ กว่า 42 ไร่ ในจังหวัดหนองคาย
ศาลากู่แก้ว สร้างขึ้นโดยหลวงปู่บุญเหลือ สุรีรัตน์ เป็นผู้นำหมู่คณะมาจากทั่วสาระทิศ
ผู้ที่มีจิตศัทธธาร่วมกันก่อสร้าง เพื่อทรงไว้ซึ่งพุทธประวัติเทวประวัติ ตามวรรณคดีของ
พระพุทธศาสนา พุทธมามกะ สมาคมจังหวัดหนองคาย ตามใบอนุญาติเลขที่ ต.60/2519 ณ.วันที่
10 มีนาคม 2519
เทวลัยปางนี้ คือ เจ้าปู่อิศวรและเจ้าย่าอุมา
ทั้งสองพระองค์นี้เป็นบรรพบุรุษของเทพเทวันในหมื่นโลกธาตุแสนกุฏิมหาจักรวาล
และทรงเป็นหัวหน้านำพาบริวารลูกหลานลงมาตั้งโลกธาตุ ภายหลังเมื่อสรรพสัตว์
ทั้งหลายในมงคลจักรวาลนี้ถูกทำลายแล้วด้วยภัยอกุศลของสัตว์แต่ละยุคกาลจึงมีนามขนานตามภาษภาคอีสานอีกนามหนามหนึ่งว่าปู่สังกะสาและย่าสังกะสี
และจะได้มาถือกำเนิดเป็นพุทธบิดาและพุทธมารดาของราโมพุทธเจ้า และธรรมราชาพุทธเจ้า
แห่งอนาคตพุทธวงค์ ตามวรรณคดีของศาสนา
พระเทวลัยปางนี้ คือ ปางเมื่อพระผู้มีพระภาคตรัสรู้เจ้าแล้วได้ทรงเสวยวิมุติสูขอยู่บนโพธิบัลลังก์ตลอด
7 วันแล้วก็ลุกออกจากบัลลังก์เสด็จขึ้นบนอากาศ เพื่อกำจัดความสงสัยของเทวดาทั้งหลาย
ทรงแสดงยมกปฏิหารย์และเสด็จไปประทับทางทิศอุดร ห่างจากบัลลังก์ทรงทอดพระเนตรบัลลังก์
และต้นโพธิ์อันเป็นที่บรรลุผลบารมีธรรมทั้งหลายมาตลอดอสงไขยแสนมหากัลป์
ด้วยอาการไม่หลับตาตลอด ๗ วัน
สถานที่นั้นจึงเรียกว่าอนิมิสเจดีย์แปลว่าไม่หลับพระเนตร
ตามวรรณคดีของพระศาสนามาจนบัดนี้
เทวลัยปางนี้ คือ องค์พระแม่กวนอิม เป็นเทพเจ้าแห่งความเมตตา
เจ้าแม่เป็นกุลสตรีที่มีศรัทธาเปี่ยมล้นในพุทธศาสนา เป็นสตรีที่รักโพธิญาณยิ่งกว่าชีวิต
สามารถสละดวงเนตรและมือเป็นทานเพื่อไถ่ถอนชีวิตของบิดาให้หายจากอาพาธ เป็นที่เคารพ
เป็นที่เคารพสักการะของชาวจีน ชาวญวญ และชาวญี่ปุ่น ตามวรรณคดีสืบมา
เทวลัยปางนี้คือ ท่าท้าวพระยากรรมเทวราช
มีหน้าที่จารึกการทำดีทำชั่วของสรรพสัตว์ ในทุกกาลอริยบถการกระทำอย่างในทวารอินทรีย์
๖คือ ตา หูจมูก ลิ้น กายใจในที่ลับ หรือที่แจ้งก็ดี
ย่อมไม่พ้นจากอำนาจรู้เห็นของพระยากรรมเทวราช
ถ้าทำดีก็เขียนจารึกไว้ในแผ่นทองสุวรรณบัตร ( แผ่นทองคำ
)ถ้าทำชั่วเขียนจารึกไว้ในแผ่นหมาเน่า เมื่อตายแล้วสัตว์จะถูกจำแนกไปตามกรรมที่ทำไว้ ตามวรรณคดีของโลกธาตุ
เทวลัยปางนี้ คือ พระศาสดาเสด็จห้ามพระญาติเนื่องด้วยการทะเลาะวิวาทกันระหว่าง
กษัตริย์โกลิยะวงศ์และศากยะวงษ์ไม่สามารถตกลงกันได้ การทะเลาะจากชนกลุ่มน้อยลุกลามไปถึงชนกลุ่มใหญ่กษัตริย์ทั้งสองนครต่างก็ยกทับเข้าทำสงครามพระศาสดาทรงทราบเหตุความหายนะมาสู่ประยูรญาติทรงจินตนาการว่า
ถ้าตถาคตไม่ไปหมู่ญาติจะพินาศ
จึงเสด็จไปโดยพระองค์เดียวประทับนั่งอยู่บนรัตนบัลลังก์กลางอากาศ
หมู่ประยูรญาติเมื่อเห็นพระศาสดาจึงวางอาวุธถวายบังคม พระศาสดาตรัสถามว่า
ทะเลาะกันเรื่องอะไรมหาบพิตร เมื่อสดับคำกราบทูลแล้ว
เรื่องน้ำเป็นต้นเหตุแห่งการบาดหมาง
จึงมีพุทธฎีกาตรัสถามน้ำกับกษัตริย์องค์หนึ่งๆอย่างไหนมีคามาก
พระญาติจึงตอบว่ากษัตริย์ดีกว่าพระเจ้าข้าทุกอย่างก็สงบลง ตามวรรณคดีของศาสนามาจนบัดนี้
เทวลัยปางนี้ คือ
พระกามเทพเป็นเทพที่มีหน้าที่ให้ความสมหวัง แก่มนุษย์ และเทวดาในด้านความรัก
เป็นโอรสของพระจันทราและเจ้าแม่ทรงกรด มีวิมานอยู่ที่เขาศะศิธร
ตามวรรณคดีของโลกธาตุ
เทวลัยปางนี้ คือ องค์แก้วกู่ฤษีอะฮามา ( พนัสวารี )
มีอาศรมอยู่นอกฟ้าป่าหิมะพาน หรือดงเกษียร สมุทรสาคร ใต้สะดือทะเลซึ่งมีอายุขัย ๒๕
พุทธันดรนับแต่พุทธันดรองค์พระทีปังกรพุทธเจ้า เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบันนี้
ตามวรรณคดีของแก้วกู่สร้างเพื่อรอรับทายาทของแก้วกู่
เทวลัยปางนี้ คือ
หนุมานทหารเอกของพระรามเป็นลูกของพายุ มารดาคือองค์พระแม่อสุวาหะ
จุติลงมาเพื่อช่วยพระรามปราบอธรรมเมื่อครั้งทศกัณฑ์เจ้ากรุงลงกาเชื้อสายองค์พระธาดาพรหมซึ่งก่อกวนทำความเดือดร้อนให้แก่มวลมนุษย์และเทวดาทั้งหลาย
ตามวรรณคดีพระรามเกียรติ์มาจนบัดนี้
เทวลัยปางนี้ คือ พระพิฆเนศ ศิวลึงค์สถิตอยู่เขาไกรลาศ
เป็นเทพที่มีสติปัญญาล้ำเลิศมีวิทยาการศิลปมาก
สามารถแก้ไขความขัดข้องได้เป็นเยี่ยมกว่าเทพทั้งปวง
และเป็นเทพที่ผสานความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และเทวดา
ด้วยกลอุบายอัยชาญฉลาดสามารถเกลี้ยกล่อมพระเจ้าไชยวิราชให้มีพระทัยตกลงยอมให้แนะนำศิวลึงค์
ลงมาประดิษฐานในเมืองมนุษย์ได้ ตามวรรณคดีของโลกธาตุ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น